สาระน่ารู้เกี่ยวกับฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อ

     ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อ (Cast Iron Manhole Cover) เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญอย่างมากในระบบระบายน้ำ ทั้งในเขตเมือง เขตอุตสาหกรรม และพื้นที่สาธารณะ โดยนอกจากจะช่วยปิดปากท่อเพื่อความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้เข้าถึงระบบใต้ดินได้ง่ายสำหรับการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุง

ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อคืออะไร?

     ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อ คือ ฝาปิดบ่อพักหรือปากท่อที่ผลิตจากวัสดุเหล็กหล่อ (Cast Iron) ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก และสภาพอากาศ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือรับน้ำหนักมาก เช่น ถนน รถไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม

ประเภทของฝาท่อเหล็กหล่อ

  1. ฝาท่อเหล็กหล่อธรรมดา (Gray Cast Iron)
    – ราคาประหยัด แต่มีความเปราะมากกว่าชนิดอื่น
    – เหมาะกับพื้นที่รับน้ำหนักน้อย
  2. ฝาท่อเหล็กหล่อเหนียว (Ductile Iron)
    – แข็งแรงกว่า ทนแรงกระแทกได้สูง
    – นิยมใช้ในถนนหรือพื้นที่ที่มีรถวิ่งผ่าน

ข้อดีของฝาท่อเหล็กหล่อ

  • ทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทกสูง
  • อายุการใช้งานยาวนาน
  • ดูแลรักษาง่าย
  • สามารถผลิตให้มีลวดลายหรือโลโก้เฉพาะได้
  • ผ่านมาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานสากล (เช่น BS EN124)

 

การเลือกใช้ฝาท่อเหล็กหล่อให้เหมาะสม

การเลือกใช้ฝาท่อ ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น

  • ระดับการรับน้ำหนัก: มีตั้งแต่ A15 (พื้นที่คนเดินเท้า) ไปจนถึง F900 (พื้นที่พิเศษ)
  • สภาพแวดล้อม: เช่น พื้นที่น้ำท่วมขัง พื้นที่มีสารเคมี หรือสภาพอากาศรุนแรง
  • การออกแบบฝา: มีทั้งแบบมีช่องระบายน้ำ, แบบล็อคกันขโมย หรือแบบไม่มีรู

การดูแลและบำรุงรักษาฝาท่อ

  • ตรวจสอบฝาท่ออย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง
  • ทำความสะอาดเศษขยะหรือสิ่งอุดตันรอบฝา
  • ตรวจสอบความแน่นของฝาปิด เพื่อความปลอดภัย

 

สรุป

     ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อ เป็นตัวเลือกยอดนิยมในการใช้งานด้านระบบระบายน้ำ เนื่องจากความแข็งแรง ทนทาน และปลอดภัย หากเลือกใช้อย่างเหมาะสมกับลักษณะงาน ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งาน และลดปัญหาการซ่อมบำรุงในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อสามารถแบ่งได้หลายแบบตามลักษณะและคุณสมบัติต่าง ๆ ครับ หลัก ๆ ที่ใช้ในการแบ่งประเภท มีดังนี้

    1. แบ่งตามรูปร่าง (Shape)

    • ฝาท่อกลม (Circular Manhole Cover): เป็นแบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดบนท้องถนน ข้อดีคือฝาจะไม่สามารถตกลงไปในท่อได้ไม่ว่าจะหมุนไปในทิศทางใด
    • ฝาท่อสี่เหลี่ยม (Square/Rectangular Manhole Cover): มักใช้ในบริเวณทางเท้า พื้นที่จอดรถ หรือในโครงการที่ต้องการความกลมกลืนกับพื้นผิวที่เป็นสี่เหลี่ยม

    2. แบ่งตามวัสดุเหล็กหล่อ (Cast Iron Material)

    ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อหลักๆ จะผลิตจากวัสดุ 2 ชนิด

    • เหล็กหล่อเหนียว (Ductile Iron หรือ Spheroidal Graphite Cast Iron): เป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงกระแทกและแรงอัดได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง รับน้ำหนักได้มาก (ตั้งแต่ ตัน ถึง ตัน) และมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กหล่อสีเทา
    • เหล็กหล่อสีเทา (Grey Cast Iron) เป็นวัสดุแบบดั้งเดิม มีความแข็ง แต่เปราะกว่าเหล็กหล่อเหนียว และมักแตกหักได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทกหรือแรงอัดสูงๆ

    3. แบ่งตามระดับการรับน้ำหนัก (Load Capacity)

    นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกใช้ ซึ่งมักแบ่งตามมาตรฐานสากล (เช่น EN 124) หรือตามการใช้งาน โดยจะระบุเป็นหน่วยน้ำหนัก (ตัน)

    • Light Duty (รับน้ำหนักต่ำ) มักจะรับน้ำหนักได้ประมาณ ตัน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีรถยนต์ผ่าน เช่น ทางเท้า ทางจักรยาน สวนสาธารณะ
    • Medium Duty (รับน้ำหนักปานกลาง) มักจะรับน้ำหนักได้ประมาณ ตัน เหมาะสำหรับ พื้นที่จอดรถ รถเก๋ง รถกระบะ หรือถนนในซอยที่ไม่รับรถบรรทุกหนัก
    • Heavy Duty (รับน้ำหนักสูง) มักจะรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ ตัน ถึง ตัน ขึ้นไป เหมาะสำหรับ พื้นถนนทั่วไป ที่มีรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่สัญจร

    4. แบ่งตามคุณสมบัติการใช้งานเพิ่มเติม

    นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง เช่น

    • ฝาท่อแบบทึบ (Solid Manhole Cover): ใช้ปิดบ่อพักหรือท่อระบายน้ำที่ต้องการป้องกันกลิ่น, สัตว์, หรือสิ่งแปลกปลอมตกลงไป มักมีร่องหรือติดตั้ง ยางกันกลิ่น/กันน้ำ
    • ฝาท่อแบบตะแกรง (Grated Manhole Cover): มีช่องหรือรูระบายน้ำ มักใช้เป็น ตะแกรงระบายน้ำฝน บนถนนหรือรางระบายน้ำ (บางรุ่นเป็นแบบราง V-Gutter)
    • ฝาท่อแบบมีบานพับ/ล็อค: เพื่อความสะดวกในการเปิดซ่อมบำรุง หรือเพื่อป้องกันการโจรกรรมและการเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต

     

 

     ฝาท่อแมนโฮลเหล็กหล่อมี หลากหลายรุ่นและขนาดมาก เนื่องจากผู้ผลิตแต่ละรายมีรหัสรุ่นของตัวเอง และมีการผลิตเพื่อรองรับขนาดบ่อพักมาตรฐานหลายขนาด รวมถึงระดับการรับน้ำหนักที่แตกต่างกัน

โดยทั่วไปแล้ว "รุ่น" ของฝาท่อจะถูกจำแนกหลักตาม รูปทรง และ ระดับการรับน้ำหนัก (Load Capacity)

1. ขนาดที่พบได้บ่อย (ขนาดช่องเปิดภายใน)

ขนาดของฝาท่อจะถูกกำหนดตามขนาดของช่องเปิดของบ่อพัก (Open Channel Size) ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตร (มม.) หรือเซนติเมตร (ซม.)

รูปทรง

ขนาดช่องเปิดที่นิยม (มม. หรือ ซม.)

กลม

, , (ขนาดมาตรฐานทั่วไป), , , ,

สี่เหลี่ยม

, (ขนาดมาตรฐานทั่วไป), , ,

ส่งออกไปยังชีต

หมายเหตุ: นอกจากขนาดช่องเปิดแล้ว ยังมีขนาดรวมของฝาและเฟรมด้านนอกที่ใหญ่กว่าขนาดช่องเปิดเสมอ

2. การจำแนกรุ่นตามการรับน้ำหนัก (Load Capacity)

"รุ่น" ที่สำคัญที่สุดคือรุ่นที่จำแนกตามความสามารถในการรับน้ำหนัก ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐานสากล เช่น EN 124 เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้:

ระดับการรับน้ำหนัก

การรับน้ำหนัก (ตัน)

พื้นที่ใช้งานที่เหมาะสม

Light Duty (เบา)

ทางเท้า, สวนสาธารณะ, ลานบ้าน, พื้นที่ไม่มีรถยนต์ผ่าน

Medium Duty (ปานกลาง)

ลานจอดรถส่วนตัว, ถนนในหมู่บ้าน, ถนนซอยที่ไม่หนัก

Heavy Duty (หนัก)

ถนนสายหลัก, พื้นที่จอดรถบรรทุก, โรงงานอุตสาหกรรม

ส่งออกไปยังชีต

3. รหัสรุ่นเฉพาะจากผู้ผลิต

ผู้ผลิตแต่ละรายจะมีการกำหนดรหัสรุ่นสินค้า (Model Number) ของตนเอง ซึ่งมักประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่าง ขนาด และน้ำหนักบรรทุก เช่น:

  • รหัสตัวอักษร: เช่น MH-03 (รุ่น 03), SS-5 (รุ่น 5), หรือ R800-250 (R=กลม, 800=ขนาด 800 มม., 250=รับน้ำหนัก 25 ตัน)
  • ชื่อเรียกเฉพาะ: เช่น รุ่นมีบานพับ, รุ่นกันกลิ่น, รุ่นฝาตะแกรงรางวี เป็นต้น

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ไม่มีจำนวนรุ่นที่ตายตัว แต่จะมี ขนาดมาตรฐาน และ ระดับการรับน้ำหนักมาตรฐาน ที่เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมก่อสร้างครับ

 

Visitors: 8,564