สาระน่ารู้เกี่ยวกับตะแกรงไฟเบอร์กลาส FRP Mini Grating

 FRP Mini Grating คืออะไร?

FRP Mini Grating (ตะแกรงไฟเบอร์กลาสแบบช่องเล็ก) คือ ตะแกรงที่ผลิตจากพลาสติกเสริมใยแก้ว (Fiberglass Reinforced Plastic) ซึ่งมีช่องเปิดขนาดเล็กกว่าตะแกรง FRP ทั่วไป

  • ขนาดช่องทั่วไปของ Mini Mesh: 19 × 19 มม. หรือ 25 × 25 มม.
  • ออกแบบให้รับน้ำหนักได้ดี พร้อมพื้นผิวกันลื่น
  • เหมาะสำหรับ พื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ทางเดินในโรงงาน พื้นที่เปียก พื้นที่ใกล้เครื่องจักร หรือระบบบำบัดน้ำ

 ข้อดีเด่นของ FRP Mini Grating

จุดเด่น

รายละเอียด

ไม่เป็นสนิม

แตกต่างจากเหล็ก — FRP ไม่ทำปฏิกิริยาออกซิเดชัน ไม่ขึ้นสนิม

น้ำหนักเบา

ติดตั้งง่าย ขนย้ายสะดวก เบากว่าเหล็กถึง 3–4 เท่า

ทนต่อสารเคมี

ไม่เปื่อยยุ่ยในสภาพแวดล้อมที่มีกรด-ด่าง เหมาะกับงานอุตสาหกรรม

ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า

ปลอดภัยจากไฟฟ้ารั่ว เหมาะกับพื้นที่เสี่ยงไฟฟ้า

กันลื่นดีเยี่ยม

พื้นผิวมีลักษณะ “Gritted” หรือ “Concave” เพิ่มแรงยึดเกาะ

ไม่ผุ ไม่บวม

ไม่ดูดซึมน้ำ ไม่บวมตัวในสภาพแวดล้อมเปียกชื้น

บำรุงรักษาต่ำ

ไม่ต้องทาสีกันสนิมหรือเคลือบป้องกันบ่อยๆ

 

วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต

ตะแกรง FRP ทำจาก 2 ส่วนหลัก

  1. เรซิน (Resin) – วัสดุพื้นฐาน เช่น

o    Isophthalic Polyester Resin – ทนเคมีและความร้อนระดับปานกลาง

o    Vinyl Ester Resin – ทนเคมีรุนแรง ทนความร้อนสูง

o    Phenolic Resin – ทนไฟ เหมาะกับโรงงานน้ำมันหรือพื้นที่เสี่ยงระเบิด

  1. เส้นใยไฟเบอร์กลาส (Glass Fiber) – เสริมแรง ช่วยให้ตะแกรงรับน้ำหนักได้ดี ไม่เปราะง่าย

การใช้งานยอดนิยม

  • ทางเดินในโรงงานอุตสาหกรรม
  • พื้นบริเวณระบบบำบัดน้ำเสีย
  • ฝาปิดรางระบายน้ำ
  • พื้นใต้อาคารที่เปียกชื้นหรือมีน้ำมัน
  • ทางเดินในท่าเรือ สะพานลอย
  • แท่นปฏิบัติงานบนที่สูง

การติดตั้ง / การตัด

  • สามารถ ตัดได้ด้วยเครื่องมือช่างไม้ทั่วไป เช่น เลื่อยวงเดือน
  • ต้องใช้ อุปกรณ์ป้องกันฝุ่น (แว่น, หน้ากาก) ขณะตัด
  • ยึดติดกับโครงสร้างด้วย คลิปล็อก (Clamp) หรือ น็อตสแตนเลส เพื่อความมั่นคง
 

ข้อควรรู้ / ข้อจำกัด

 

ข้อควรรู้

รายละเอียด

รับน้ำหนักเท่าเหล็กไม่ได้ทุกแบบ

ถ้าเป็นโหลดหนักมาก อาจต้องเพิ่มความหนา

ไวไฟหากไม่ใช้เรซินทนไฟ

FRP ทั่วไปติดไฟได้ ควรเลือกชนิด Phenolic หรือ Flame-retardant resin

ไม่ควรสัมผัสแสง UV ตลอดเวลา

แม้ทน UV ได้ระดับหนึ่ง แต่หากใช้กลางแจ้งควรเลือกแบบเคลือบ UV

ราคาอาจสูงกว่าเหล็กชุบสังกะสี

แต่คุ้มค่าในระยะยาวจากค่าบำรุงรักษาที่ต่ำมาก


เคล็ดลับการเลือกซื้อ FRP Mini Grating

  • ดู ขนาดช่อง (mesh) ให้เหมาะกับการใช้งาน
  • ตรวจสอบ ชนิดเรซิน ให้ตรงกับสภาพแวดล้อม
  • เลือกผู้ผลิตที่มี มาตรฐาน ISO / ASTM / EN
  • ตรวจสอบว่าแผ่นตะแกรงมี พื้นผิวกันลื่น
  • ขอใบรับรองคุณภาพ / น้ำหนักรองรับจากผู้ผลิต

 

     ก่อนเลือกใช้ ตะแกรงไฟเบอร์กลาส FPR Mini Grating (Fiberglass Reinforced Plastic Mini Grating) ควรศึกษาข้อมูลที่สำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เหมาะกับการใช้งานของคุณทั้งด้านความแข็งแรง ความทนทาน และความปลอดภัย ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งาน

 

1. วัสดุและโครงสร้างของ FPR Mini Grating

  • ผลิตจาก ไฟเบอร์กลาสผสมเรซิ่น (FRP) ทำให้มีความทนทานต่อสารเคมี สนิม และการกัดกร่อน
  • มีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับเหล็ก แต่ยังคงความแข็งแรงสูง
  • ขนาด “Mini” หมายถึง ช่องตะแกรงมีขนาดเล็กกว่าแบบทั่วไป เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียด หรือรองรับล้อเล็ก เช่น รถเข็น

2. คุณสมบัติเด่น

  • ไม่เป็นสนิม และทนต่อสารเคมี เช่น กรด ด่าง
  • ไม่ดูดซึมน้ำ และไม่ลื่นแม้เปียกน้ำ
  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องจักรหนัก
  • ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงไฟฟ้า
  • บำรุงรักษาง่าย ไม่ต้องทาสีหรือเคลือบกันสนิม

3. การใช้งานที่เหมาะสม

  • พื้นโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการสัมผัสสารเคมี
  • พื้นที่เปียกหรือใกล้น้ำ เช่น โรงบำบัดน้ำเสีย สระว่ายน้ำ
  • พื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยในการเดิน เช่น พื้นที่สาธารณะ
  • บริเวณที่ต้องการรองรับน้ำหนักไม่มาก เช่น ทางเดินคน ล้อรถเข็น

4. จุดสังเกต/ข้อควรระวัง

  • แม้จะทนทานแต่ ไม่เหมาะกับการรับน้ำหนักมากเกินขีดจำกัด เช่น รถบรรทุกขนาดใหญ่
  • ควรตรวจสอบ คุณภาพเรซิ่น ที่ใช้ในการผลิต เพราะมีผลต่อความทนทานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
  • ควรเลือกขนาดและ ความหนาที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
  • บางรุ่นอาจไม่ทน UV หากใช้กลางแจ้ง ควรเลือกแบบที่มีสารป้องกัน UV

5. มาตรฐานและความปลอดภัย

  • เลือกใช้สินค้าที่มีการรับรองมาตรฐาน เช่น ASTMISO, หรือ มาตรฐานอุตสาหกรรมของไทย (มอก.)
  • ควรมีการทดสอบการรับแรงดึง แรงกด และแรงกระแทก
  • หากใช้ในงานสาธารณะ ควรเลือกแบบที่มีพื้นผิวกันลื่น (Anti-Slip)

ข้อควรระวังในการใช้งาน FPR Mini Grating

 

1. การรับน้ำหนักเกินขีดจำกัด

  • หลีกเลี่ยงการวางหรือให้รถบรรทุกหนัก รถโฟล์คลิฟท์ วิ่งผ่านบนตะแกรง หากไม่ได้ออกแบบมาให้รับโหลดนั้น
  • ตรวจสอบค่าการรับน้ำหนัก (Load Rating) ที่ผู้ผลิตระบุไว้ให้เหมาะกับการใช้งานจริง

 

2.ติดตั้งไม่ถูกต้อง

  • หากตะแกรงไม่ได้รับการติดตั้งอย่างถูกวิธี อาจเกิดการโก่งตัว แตก หรือไม่ปลอดภัย
  • ควรมีการยึดตะแกรงกับโครงสร้างด้วยคลิปล็อคหรืออุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม

 

3.การใช้งานกลางแจ้งโดยไม่เลือกวัสดุที่ทน UV

  • ไม่ใช่ FPR ทุกชนิดจะทนแดด หากใช้ในที่กลางแจ้ง ควรเลือกที่มีสารป้องกัน UV มิฉะนั้นตะแกรงจะเปราะและแตกในระยะยาว

 

4. การสัมผัสสารเคมีรุนแรงโดยไม่มีการป้องกัน

  • แม้ FPR จะทนสารเคมีหลายชนิด แต่ควรตรวจสอบประเภทของเรซิ่นที่ใช้ ว่าสามารถทนต่อกรด-ด่างหรือสารเคมีเฉพาะได้หรือไม่

 

5.ไม่ควรใช้งานใกล้เปลวไฟหรือความร้อนสูง

  • FPR มีค่าการทนไฟจำกัด บางรุ่นอาจติดไฟได้หากเจอความร้อนสูง ควรเลือกแบบที่ผ่านมาตรฐาน Flame Retardant (FR) หากใช้งานใกล้เปลวไฟ

 

6.การตัดหรือเจาะโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน

  • หากต้องตัดตะแกรง FPR ให้พอดีกับพื้นที่ควรสวมหน้ากากกันฝุ่น แว่นตา และถุงมือเนื่องจากผงไฟเบอร์กลาสอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

 

7.ไม่ควรวางบนพื้นผิวไม่เรียบ

  • ควรมีโครงสร้างรับด้านล่างที่สม่ำเสมอ เพราะหากวางบนพื้นที่ไม่เสถียร ตะแกรงอาจแตกร้าวเมื่อมีแรงกด

 

8.เลือกขนาดรูตะแกรงไม่เหมาะสม

  • หากช่องตะแกรงเล็กเกินไป น้ำหรือเศษวัสดุอาจสะสมและอุดตัน
  • หากช่องกว้างเกินไป อาจเสี่ยงต่อการตกของของชิ้นเล็กหรือนิ้วเท้าติด (ในพื้นที่คนเดิน)

 

สรุป

     การเลือกใช้งาน FPR Mini Grating อย่างระมัดระวังและเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และป้องกันอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
หากมีข้อมูลการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น ต้องการติดตั้งบริเวณไหน ใช้กับอะไร ผมสามารถช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ครับ.

 

Visitors: 8,564